ถูกพัฒนาโดย Microsoft เป็นส่วนหนึ่งของ .NET Framework VB.NET ได้รับการออกแบบให้เป็นภาษาที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น รวมทั้งนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันที่มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง
หนึ่งในจุดเด่นหลักของ visual basic net คือ
การสนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming) ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างซอฟต์แวร์ที่มีโครงสร้างดี และสามารถจัดการกับข้อมูลและฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้แนวคิดของคลาสและอ็อบเจกต์ VB.NET ทำให้สามารถจัดการกับโค้ดได้ง่ายขึ้น โดยการแบ่งแยกฟังก์ชันและข้อมูลออกเป็นส่วนๆ ซึ่งช่วยให้โค้ดมีความเรียบร้อยและดูแลรักษาง่าย
visual basic net ยังรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันหลายประเภท
ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันที่ทำงานบน Windows, เว็บแอปพลิเคชัน, หรือแม้กระทั่งบริการเว็บ (Web Services) ฟีเจอร์ที่สำคัญของ VB.NET รวมถึงการทำงานร่วมกับฐานข้อมูลผ่าน ADO.NET ซึ่งช่วยให้การจัดการฐานข้อมูลมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งการใช้ LINQ (Language Integrated Query) ที่ช่วยให้การสืบค้นและจัดการข้อมูลในฐานข้อมูลเป็นเรื่องง่าย
การพัฒนาโปรแกรมด้วย visual basic net มักจะใช้ Visual Studio ซึ่งเป็น Integrated Development Environment (IDE) ที่ให้เครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยในกระบวนการพัฒนา เช่น การดีบัก (Debugging) ที่มีความแม่นยำ การสร้าง UI (User Interface) ที่ใช้งานง่าย และการจัดการโปรเจกต์ที่สะดวก นอกจากนี้ Visual Studio ยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างรายงานและการจัดการเวอร์ชันของโค้ด
visual basic net มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ดี
เช่น การจัดการข้อผิดพลาดด้วย Try…Catch…Finally, ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานของโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการทำงานแบบ Asynchronous ยังช่วยให้โปรแกรมทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้กระบวนการใดกระบวนการหนึ่งเสร็จสิ้นก่อน
สรุปแล้ว Visual Basic NET เป็นภาษาโปรแกรมที่มีความนิยมสูงเพราะความง่ายในการเรียนรู้และความสามารถในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับการพัฒนาในหลายรูปแบบ พร้อมด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยให้การพัฒนาโปรแกรมเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูง